สายไฮดรอลิคแตกเกิดจากอะไร
สาเหตุที่ทำให้สายไฮดรอลิคแตกมีหลายปัจจัย ซึ่งอาจเกิดจาก:
- แรงดันเกินพิกัด: หากระบบทำงานที่แรงดันสูงกว่าค่าที่สายไฮดรอลิครองรับได้ จะทำให้สายแตกหรือระเบิดได้
- ความเสียหายทางกายภาพ: การถูกกระแทก ถูกขูดขีด หรืองอเกินไปจะทำให้สายชำรุดหรือเกิดรอยร้าวได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การแตก
- ความร้อนสูงเกินไป: หากระบบไฮดรอลิคมีอุณหภูมิสูงเกินค่าที่สายไฮดรอลิครองรับได้ อาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพและแตกได้
- การเสื่อมสภาพของวัสดุ: สายไฮดรอลิคที่ใช้มานานจะมีการเสื่อมสภาพ เช่น การแห้งกรอบ ทำให้ทนแรงดันและแรงดึงได้น้อยลง
- ติดตั้งไม่ถูกต้อง: หากติดตั้งสายไฮดรอลิคไม่ถูกต้อง เช่น มีการบิดงอมากเกินไป หรือใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อไม่เหมาะสม ก็จะทำให้สายเสียหายได้ง่าย
- การปนเปื้อนในระบบ: สิ่งสกปรกหรือเศษวัสดุที่ปนเปื้อนในระบบอาจทำให้เกิดการอุดตันและเพิ่มแรงดันในสาย ส่งผลให้สายแตกได้
การตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหานี้ได้
สายไฮดรอลิคทนความร้อนได้กี่องศา
สายไฮดรอลิคสามารถทนความร้อนได้ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการผลิต โดยทั่วไปแล้ว สายไฮดรอลิคที่ทำจากวัสดุที่ทนทานต่อความร้อนสูง เช่น:
- สายไฮยางดรอลิคที่หุ้มด้วยยางสังเคราะห์ (Synthetic Rubber): สามารถทนความร้อนได้ตั้งแต่ประมาณ -40°C ถึง 100°C หรือสูงสุดที่ 120°C สำหรับสายบางประเภทที่ออกแบบมาทนความร้อนสูง
- สายไฮดรอลิคที่มีการหุ้มด้วยเทฟลอน (PTFE): สามารถทนความร้อนได้สูงถึง -70°C ถึง 230°C ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูง
- สายไฮดรอลิคที่มีการหุ้มด้วยวัสดุพิเศษเช่น สแตนเลสหรือโลหะถัก: อาจทนได้ถึงประมาณ 200°C ขึ้นไป แต่จะมีการออกแบบเฉพาะตามความต้องการของงาน
ควรเลือกสายไฮดรอลิคที่มีสเปกตรงตามการใช้งาน เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด